top of page
ค้นหา

4 ขั้นตอนสำคัญด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่

  • stephan723
  • 19 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที

Written by Prich Kasettham (Managing Partner of Viz (Thailand) Ltd. all right reserved 2025


Launching a product or service without considering intellectual property (IP) is like setting sail without a map.
Launching a product or service without considering intellectual property (IP) is like setting sail without a map.

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยไม่คำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญาเปรียบได้กับการออกเดินทางโดยไม่มีแผนที่ จากประสบการณ์กว่า 15 ปีในแวดวงทรัพย์สินทางปัญญา การทำงานใกล้ชิดกับนักนวัตกรรม นักสร้างสรรค์ และผู้กำหนดนโยบาย ผมพบว่า การจัดการทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างความสำเร็จกับความเสียใจที่ตามมาได้

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการขนาดกลาง (SME) หรือบริษัทใหญ่ที่มุ่งสร้างนวัตกรรม สี่ขั้นตอนสำคัญเหล่านี้จะช่วยให้คุณเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมั่นคงและเป็นระบบ

 

ขั้นตอนที่ 1: ระบุและตรวจสอบสินทรัพย์ทรัพย์สินทางปัญญาของคุณ

ก่อนเผยแพร่สู่สาธารณะ ควรทำ IP Audit (การประเมินทรัพย์สินทางปัญญา) เพื่อระบุองค์ประกอบที่สามารถคุ้มครองได้ในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ซึ่งอาจรวมถึง:

  • สิทธิบัตร (Patents) สำหรับนวัตกรรม หรือการแก้ปัญหาทางเทคนิคใหม่

  • เครื่องหมายการค้า (Trademarks) ชื่อแบรนด์ โลโก้ หรือสโลแกน

  • ลิขสิทธิ์ (Copyright) สำหรับเนื้อหา โค้ด ซอฟต์แวร์ งานออกแบบ หรือสื่อการตลาด

  • ความลับทางการค้า (Trade secrets) เช่น กระบวนการ สูตร หรือฐานข้อมูลลูกค้า

  • สิทธิ์การออกแบบ (Design rights) สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของผลิตภัณฑ์

 

การระบุล่วงหน้าช่วยให้คุณไม่พลาดการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีคุณค่า และกำหนดแนวทางการคุ้มครองในแต่ละตลาดได้

 

ขั้นตอนที่ 2: ยื่นจดสิทธิ์คุ้มครองทั้งในและต่างประเทศ

เมื่อทรัพย์สินถูกระบุแล้ว ควรดำเนินการยื่นขอคุ้มครองสิทธิ์โดยเร็วที่สุดก่อนเปิดเผยหรือเผยแพร่สู่สาธารณะ:

  • ยื่นจดสิทธิบัตรตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาความใหม่ (novelty)

  • จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในตลาดเป้าหมายทั้งหมดเพื่อป้องกันการละเมิด หรือจดโดเมนที่มีส่วนเกี่ยวกับแบรนด์

  • ใช้ระบบ Hague สำหรับออกแบบสิ่งประดิษฐ์ และระบบ Madrid สำหรับเครื่องหมายการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการจดต่างประเทศ

  • ในบางประเทศสิทธิถ้าไม่ได้จดทะเบียนจะไม่ครอบคลุมหรือมีอยู่อย่างจำกัด การจดทะเบียนสิทธิ์จะช่วยให้มีอำนาจในการฟ้องร้องได้

 

คำแนะนำ: อย่าลืมทำการตรวจสอบว่าไม่มีการละเมิดทรัพย์สินของผู้อื่น (Freedom-to-operate) หรือค้นหาข้อมูลสิ่งประดิษฐ์/เครื่องหมายการค้าที่มีอยู่ก่อนหน้า (prior art) เพื่อป้องกันข้อพิพาทจากการละเมิดสิทธิ์คนอื่นก่อน

 

ขั้นตอนที่ 3: ผนึก IP เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจและการตลาด

อย่าทิ้งทรัพย์สินทางปัญญาไว้เฉพาะในฝ่ายกฎหมาย แต่ให้บูรณาการผนวกเข้ากับธุรกิจของคุณ:

  • วางแผนการยื่นจดให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และแผนเปิดตัว

  • ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาจูงใจนักลงทุน พันธมิตร หรือเป็นโอกาสในการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ (licensing)

  • พิจารณาทำ Co‑branding หรือ Joint ventures พร้อมข้อตกลงที่ชัดเจนเรื่องความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา

  • นำเครื่องหมายการค้าและการออกแบบมาใช้ในการตลาด และบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้น

 

วิธีนี้จะทำให้กลยุทธ์ IP กลายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อน ไม่ใช่อุปสรรคต่อธุรกิจ

 

ขั้นตอนที่ 4: ติดตาม บังคับ และสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาหลังเปิดตัว

การคุ้มครองไม่จบแค่การจดสิทธิ แต่ต้อง:

  • ติดตามการละเมิดสิทธิทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์

  • ดำเนินการเมื่อเกิดการละเมิดสิทธิ เช่น จดหมายแจ้งให้หยุดใช้ (cease‑and‑desist), ดำเนินการสั่งลบ หรือฟ้องร้อง

  • สร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญา ผ่านการให้สิทธิ (licensing), แฟรนไชส์ (franchising) หรือการถ่ายโอนเทคโนโลยี (technology transfer)

  • ต่ออายุหรือขยายสิทธิ์ตามที่ผลิตภัณฑ์พัฒนาต่อไป

 

เครื่องมือที่ช่วยได้ เช่น WIPO’s Global Brand Database, PATENTSCOPE และระบบค้นหา ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP)

 

บทสรุป: ให้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่แค่โล่ป้องกัน

เมื่อทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ถูกผนวกรวมเข้ากับวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบ มันจะไม่ใช่แค่เครื่องมือทางกฎหมายเท่านั้น — แต่จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนทางธุรกิจ สามารถเปิดตลาดใหม่ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค และเพิ่มมูลค่าในระยะยาวได้

เริ่มต้นด้วยแนวคิดเรื่องการคุ้มครอง อย่ารอให้กลายเป็นเรื่องที่นึกขึ้นได้ทีหลัง เพราะในโลกที่ไอเดียคือเงิน กลยุทธ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ของคุณก็คือแผนการลงทุนของธุรกิจคุณนั่นเอง

ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ปรึกษาเราได้เลยครับ

อีเมล: info@vbizthailand.com

เว็บไซต์: www.vbizthailand.com


 
 
 

Comentarios


bottom of page